หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี (ดูภาพด้านล่าง)
ควายเป็นสัตว์ที่มีคุณประโยชน์มากมายต่อชาวนา และคนไทย เนื่องจากมีส่วนช่วยในการทำนา ทำการเกษตรเป็นผลผลิตออกมาหล่อเลี้ยงประชาชนในประเทศ แม้ปัจจุบันนี้หน้าที่บางอย่างของควายได้ถูกทดแทนไปด้วยเครื่องจักรที่ช่วยอำนวยความสะดวก แต่วิถีชีวิตของชาวนาไทยกับควายไทยที่มีความผูกพันกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายายก็ยังคงอยู่ และที่จังหวัดสุพรรณบุรีแห่งนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์วิถีชีวิตของชาวนาไทย และควายไทยให้ยังคงอยู่ ณ หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย
หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บนพื้นที่กว้างขวางอีกแห่งหนึ่งที่มีความน่าสนใจ ภายใต้บรรยากาศอันร่มรื่นของหมู่ต้นไม้ มีเรือนไทยของภูมิภาคต่าง ๆ สร้างอยู่ ภายในเรือนมีการจัดแสดงวิถีชีวิตชุมชนที่มีความแตกต่างกันไปตามสภาพภูมิประเทศ มีสวนนกพื้นบ้าน พิพิธภัณฑ์ประมง (จัดแสดงอุปกรณ์จับปลา ประเภทต่าง ๆ เช่น ลอบ ไซ ข้อง เป็นต้น การแสดงลำตัดของเด็กนักเรียนเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมอันดี แต่จุดเด่นที่เรียกความสนใจของนักท่องเที่ยวอยู่ที่การแสดงความสามารถของควายไทย
|
ควาย และเกวียนยานพาหนะที่พาพวกเราไปท่องเที่ยวกลางทุ่งนาเขียวขจี |
|
ควายเผือกที่หาดูได้ยาก และเจ้าตัวนี้มีเขาโค้งโง้งสวยงาม |
|
ทุ่งนาสาธิตการปลูกข้าว และเกวียนที่เตรียมพร้อมให้นักท่องเที่ยวได้ทดลองนั่ง |
ควายของไทยเรานั้นเป็นสัตว์ที่มีความฉลาดสามารถเรียนรู้ได้ เมื่อนำมาฝึกด้วยครูสอนที่ชำนาญก็ทำให้สามารถออกแสดงได้เช่นกัน เมื่อทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมของเรามาถึงหมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทยแล้ว จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะพลาดการแสดงชุดนี้ด้วยตาของตนเอง การแสดงความแสนรู้ของควายสัตว์คู่บุญของคนไทยมาตั้งแต่ยุคแรก ๆ สามารถทำตามคำสั่ง เช่น นอน เจ้าควายก็จะล้มตัวลงนอนหลับตาพริ้ม เมื่อให้ยิ้ม ก็จะแยกเขี้ยวโชว์ฟันขาวสะอาดจนครบทุกซี่ทีเดียวทำเอาหนุ่ม ๆ สาว ๆ ใจละลาย (หรือเปล่า? หรืออาจจะเป็นความสยดสยองก็ไม่อาจเอ่ยออกมาเป็นคำพูดได้)
และที่หมู่บ้านควายไทยแห่งนี้เองที่ทำให้ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมของเราได้ทราบถึงตำนานของสะพานควายว่า บริเวณสะพานควายเมื่อก่อนนั้นไม่ได้มีชื่อเรียกว่าสะพานควาย แต่เกิดเนื่องจากบริเวณนี้เมื่อฝนตกเส้นทางขาดไม่สามารถเดินทางต่อได้ จึงน้ำควายมาต่อกันหลาย ๆ ตัวแทนสะพานทำให้สามารถสัญจรไปมาได้ จึงได้ชื่อว่าสะพานควายตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ไม่ทราบว่ามีความเท็จจริงเท่าใด ดังนั้นโปรดใช้การพิจารณาก่อนที่จะเชื่อด้วย และยังมีการแสดงที่เรียกเสียงอื้ออึงจากคนดูได้อีกคือ การแสดงลอดท้องควายเพื่อสะเดาะเคราะห์เหมือนการลอดท้องช้าง มีการเรียกหาอาสาสมัคร แต่มิมีใครขันอาสา ครูผู้ฝึกจึงต้องสาธิตให้ชมเอง ก็หวังว่าเคราะห์ที่ครูแกมีอยู่จะมลายหายไป
เมื่อชมการแสดงความสามารถของควายไทยจบแล้ว หลังจากนั้นสามารถนำบัตรไปต่อคิวเพื่อขึ้นเกวียนเที่ยวชมทุ่งนาสาธิตของทางหมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย ได้บรรยากาศทุ่งนาแท้ ๆ ตั้งแต่เจ้าวัวเทียมเกวียนเดินไป ถ่ายไป ก้มเล็มหญ้าไปตลอดทาง หลังจากเที่ยวชมทุ่งนาสาธิตแล้ว สามารถมาเยี่ยมชมถ่ายรูปควายแปลกและหายากเช่น ควายเผือก ควายห้าขา เป็นต้น ก่อนเดินทางกลับลองแวะร้านขายของที่ระลึกเผื่อได้ของฝากกลับไปฝากเพื่อน ๆ เพิ่มอีกหนึ่งอย่าง
|
หัวโขน และอุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้ในชีวิตประจำวันจัดแสดงภายในเรือนไทยสี่ภาค
|
|
มุมไม้ประดับสวยงามภายในหมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย และสองห่านคู่ชู้ชื่น |
|
ดอกไม้หลากสีเพิ่มความสดใสให้กับสวน |
|
หมู่เรือนไทยสี่ภาคที่เปิดให้เข้าชมภายในเพื่อสัมผัสกลิ่นอายแห่งวิถีชีวิตของคนไทยในสมัยก่อน |
การเดินทาง
จากอำเำภอเมืองสุพรรณบุรี ไปตามทางหลวงหมายเลข 340 สู่อำเภอศรีประจันต์ ผ่านตัวอำเภอศรีประจันต์ไปทางอำเภอสามชุก เมื่อถึงสามแยกโรงพยาบาลศรีประจันต์ ให้ขับตรงต่อไปอีกเล็กน้อย จะเห็นป้ายบอกทางเข้าหมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย
มีลานแสดงควาย วันจันทร์-ศุกร์ มีการแสดงรอบ 11.00 น. และ 15.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ มีการแสดงรอบ 11.00 น., 14.30 น. และ 16.00 น. ด้านหน้าทางเข้ามีร้านขายสินค้าที่ระลึกของบ้านควายสำหรับนักท่องเที่ยว บ้านควายเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00–18.00 น.
ค่าเข้าชมชาวไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก 100 บาท
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานกรุงเทพฯ โทร. 0 2270 0395-7 สำนักงานสุพรรณบุรีโทร. 0 3558 1668 หรือที่เว็บไซด์ www.buffalovillages.com (ขอบคุณข้อมูลหมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทยเพิ่มเติม จาก ททท.)
|